ผิวผู้สูงวัย ดูแลอย่างไรให้ใสปิ๊ง!

"ปัญหาผิวแห้ง" มักจะพบเจอเมื่ออายุสูงวัยมากขึ้น ทำไมแก่แล้วผิวถึงแห้งลง? เพราะ “ผิว” ของคนเรา จะเริ่มเสื่อมสภาพเมื่ออายุเข้าเลขสาม และแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เมื่ออายุมากขึ้น โดยมีทั้งการเสื่อมจากปัจจัยภายในร่างกาย และการเสื่อมจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์ผิวหนังจะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น สารประกอบในชั้นผิว คอลลาเจน อีลาสติน ไฮยาลูโรนิค-แอคซิด จะค่อยๆลดลง ทำให้ผิวหนังเสื่อมจากภายใน ผิวหนังชั้นบนบางลง แผลจะหายช้าลง ผู้สูงวัยจะมีบาดแผลฟกช้ำได้ง่าย นอกจากนี้ความสามารถในการสร้างน้ำมันของเซลล์ผิวหนังในผู้สูงอายุก็ลดลง ทำให้เกิดผิวแห้งคันได้บ่อย ทั้งผิวหนังชั้นลึกมีการสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง ซึ่งปกติจะมีหน้าที่ทำให้ผิวหนังยืดหยุ่นแข็งแรง เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินลดลงทำให้เกิดริ้วรอย ผิวหนังหย่อนคล้อยนั่นเอง 

ยังมีการเสื่อมจากปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด รังสี UV ทำให้ร่างกายเกิดสารอนุมูลอิสระ สาเหตุที่ทำให้ผิวของเรา หมองคล้ำไม่สม่ำเสมอ กระแดด กระขาว ฝ้า เกิดร่องผิว ตุ่มติ่งเนื้อ รวมถึงมะเร็งผิวหนังได้ หรือสาเหตุจากการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์จัด การรับประทานอาหารไม่เพียงพอ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควรด้วย

อายุมากขึ้นผิวแพ้ง่ายขึ้น ผิวแห้งคันเป็นแผลง่าย ส้นเท้าแตกจนรู้สึกเจ็บ มือแห้ง ผิวเหี่ยวย่น ปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งกวนใจชาวสูงวัยทุกคน มาดูกันว่าเราจะสามารถดูแลป้องกันอย่างไรให้ผิวผู้สูงวัยใสปิ๊งนุ่มชุ่มชื้น บอกลาผิวแห้งแตกไปได้เลย!

1. อาบน้ำอุณหภูมิปกติ หรืออุ่นพอดี
ผู้สูงอายุ มีผิวที่บอบบางกว่าคนหนุ่มสาว เนื่องจากกลไกของร่างกายมีการทดถอยลง เช่น ต่อมไขมันและต่อมเหงื่อ มีการทำงานลดลง ร่างกายไม่ผลิตคอลลาเจนเหมือนก่อน ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง ผิวเป็นขุย ผิวแห้งคันและละคายเคืองง่าย เฉพาะฉะนั้นผู้สูงวัยไม่ควรอาบน้ำบ่อยๆ และควรอาบน้ำด้วยอุณหภูมิปกติ หรือน้ำอุ่นที่พอดี ไม่ฉะนั้นผิวจะยิ่งแห้งและขาดความชุ่มชื้นมากขึ้น

2. ไม่สครับ ขัดผิวรุนแรง 
ผิวผู้สูงวัย ควรหลีกเลี่ยงการสครับและขัดผิวที่รุนแรง เพราะผิวผู้สูงอายุนั้นบางลง คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวลดลง และการสร้างคอลลาเจนลดลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น เหี่ยวย่นง่าย จึงไม่ควรทำร้ายผิวด้วยการสครับขัดผิวรุนแรง เพราะจะยิ่งทำให้เกิดอาการอักเสบแดงคันมากกว่าเดิม หากต้องการสครับผิว ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน ออร์แกนิก อาจใช้เป็นสครับน้ำมันหรือสครับเจล ที่ให้ความลื่นนุ่มนวล และไม่บาดผิวแทน

3. ใช้สบู่อาบน้ำสูตรอ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
สบู่อาบน้ำโดยปกติ จะมีความเป็นด่างสูง ทำให้เวลาอาบน้ำเสร็จผิวจะมีความแห้งตึง ในผู้สูงวัยที่ผิวแห้งอยู่แล้วจึงไม่ควรใช้สบู่ทั่วไป ควรใช้สบู่สูตรอ่อนโยนต่อผิว และมีสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว หรือมีค่า pH Balance อยู่ระหว่าง 4-7 จะทำให้หลังอาบน้ำผิวไม่แห้งตึงและมีความชุ่มชื้น

4. หลังอาบน้ำหมั่นทาครีมบำรุงเติมตวามชุ่มชื้นแก่ผิว
แน่นอนว่าเมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ที่ขาดไม่ได้ในการเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวที่สำคัญ คือการทาครีมบำรุง ทั้งใบหน้าและผิวกาย รวมถึงมือเท้าก็สำคัญ เพราะหลังอาบน้ำผิวของผู้สูงอายุจะเสียสมดุลและความชุ่มชื้น จึงควรหมั่นเติมความชุ่มชื้นแก่ผิวที่แห้งอยู่เสมอ 

Hazel Snow Body ครีมบำรุงผิวกาย เนื้อครีมนุ่มดุจหิมะ ให้สัมผัสที่เบาสบายผิว ด้วยสารสกัดจากน้ำมันเฮเซลนัท บัวหิมะ แตงโมทะเลทราย และไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) เติมความชุ่มชื้นให้ผิวที่แห้งกร้าน ผิวชุ่มชื้นเปล่งปลั่งดูสุขภาพดี 

Hazel Cream Snow Moisturising Cream ครีมภูเขาในตำนาน ครีมที่รุ่นแม่ไว้วางใจ ตอบโจทย์ทุกสภาพผิว เติมความชุ่มชื้นพร้อมบำรุงอย่างลึกล้ำ ด้วยสารสกัดจาก น้ำมันเฮเซลนัท บัวหิมะ แตงโมทะเลทราย และไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ให้ผิวดูฉ่ำวาวสุขภาพดีในทุกๆวัน

ปัญหาผิวของผู้สูงวัยจะหมดไปเมื่อหมั่นทำ 4 ขั้นตอนนี้อยู่เสมอ บอกลา ผิวแห้งแตก ขาดความชุ่มชื้น ผิวลอกเป็นขุย ผิวแห้งแดงคัน ผิวระคายเคืองง่าย ส้นเท้าแตก มือลอก ผิวเหี่ยวย่นริ้วรอย ไปได้เลย! แน่นอนว่า การออกกำลังกาย กินอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว นอนพักผ่อนให้เพียงพอ การรักษาสมดุลจากภายในร่างกายก็สำคัญกับผิวด้วยเช่นกันนะจ้ะ

มีจำหน่ายแล้วที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ : EVEANDBOY, WATSON Donki, Matsukiyo, Gourmet market, Foodland, KIS, Rimping, All Online, Save Drug, All About You

------

source : rama mahidol