เคล็ดลับเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว

การปกป้องผิวจากอันตรายของแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญมาก! แต่การค้นหาครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับบางคน ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจทุกสิ่งที่จำเป็นต้องรู้เพื่อค้นหาครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวของคุณ ไม่ว่าคุณจะมีผิวมัน แห้ง ผิวแพ้ง่าย หรือผิวผสม ฟูจิครีมขอแนะนำคุณเกี่ยวกับสูตรและส่วนผสมที่ดีที่สุด ที่จะช่วยปกป้องผิวและมีสุขภาพดี เพราะว่าผิวของทุกคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดังนั้นจะมีข้อกังวลที่แตกต่างกัน เช่น การต่อต้านแห่งวัย ตัวเลือกที่ปราศจากน้ำหอม หรือสภาพผิวที่เฉพาะเจาะจง บอกลาความสับสนและต้อนรับครีมกันแดดที่เหมาะกับคุณ เตรียมเพลิดเพลินไปกับแสงแดดแบบไร้กังวล รับรู้ว่าผิวของคุณจะได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสม เรามาค้นหาครีมกันแดดที่ลงตัวกับผิวของคุณกันดีกว่า!

ความสำคัญของครีมกันแดดต่อสุขภาพผิว

ครีมกันแดดไม่ได้เป็นเพียงสิ่งจำเป็นในหน้าร้อนเท่านั้น แต่ควรเป็นส่วนสำคัญของกิจวัตรการดูแลผิวตลอดทั้งปีเลยค่ะ เพราะรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากดวงอาทิตย์อาจทำให้เกิดปัญหาผิวได้หลายอย่าง เช่นการถูกแดดเผา ผิวแก่ก่อนวัย และแม้แต่มะเร็งผิวหนัง นั่นคือที่มาของความสำคัญของเจ้าครีมกันแดดนั่นเอง ที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันในการปกป้องผิวของคุณจากรังสี UV ที่เป็นอันตราย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของผลกระทบที่สร้างความเสียหายเหล่านี้นั่นเอง

เมื่อเลือกครีมกันแดด สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจองค์ประกอบหลักสองประการ ได้แก่ ปัจจัยป้องกันแสงแดด (SPF) และการป้องกันรังสี UVA/UVB SPF วัดระดับการป้องกันรังสี UVB ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวไหม้จากแสงแดด ในทางกลับกัน รังสี UVA ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผิวหนังในระยะยาวและสามารถทะลุลึกเข้าไปในชั้นผิวได้ มองหาครีมกันแดดที่ให้การปกป้องในวงกว้างเพื่อปกป้องคุณจากรังสี UVA และ UVB กันดีกว่าค่ะ


ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปกป้อง SPF PA และ UVA/UVB

เมื่อพูดถึงครีมกันแดด การทำความเข้าใจคำศัพท์เฉพาะเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจอย่างมาก คำสำคัญที่ควรทำความคุ้นเคยคือการป้องกัน คือ SPF PA และ UVA/UVB

SPF หรือ Sun Protection Factor คือการวัดว่าครีมกันแดดสามารถปกป้องผิวของคุณจากรังสี UVB ที่เป็นอันตรายได้ดีเพียงใด 

PA+++ ในปี 1996 สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องสำอางแห่งญี่ปุ่น (JCIA) ได้พัฒนาปัจจัยป้องกันรังสี UVA (UVA-PF) คือ วิธีการวัดประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA ที่เรียกว่า Persistent Pigment Darkening (PPD) รายงานผลออกมาเป็นค่า PA (Protection grade of UVA) ได้ระดับการป้องกันจากรังสี UVA ไล่ระดับไปตั้งแต่ PA+ ถึง PA++++ และอนุญาตให้ผู้ผลิตครีมกันแดดแสดงฉลากต่อไปนี้บนผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด

 PA+ มีประสิทธิภาพป้องกันรังสี UVA เริ่มต้น

 PA++ มีประสิทธิภาพป้องกันรังสี UVA ปานกลาง

 PA+++ มีประสิทธิภาพป้องกันรังสี UVA สูง

 PA++++ มีประสิทธิภาพป้องกันรังสี UVA สูงสุด

รังสี UVB มีส่วนทำให้เกิดการถูกแดดเผาและอาจมีส่วนทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ ยิ่งค่า SPF สูงเท่าไร คุณก็จะได้รับการปกป้องมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือ SPF จะวัดการป้องกันรังสี UVB เท่านั้น ไม่ใช่รังสี UVA 

รังสี UVA เป็นอันตรายและอาจนำไปสู่การแก่ก่อนวัย ริ้วรอย และมะเร็งผิวหนัง ควรมองหาครีมกันแดดที่ให้การปกป้องในวงกว้าง ซึ่งหมายความว่าจะปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA และ UVB ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการปกป้องที่ครอบคลุมต่อผลกระทบที่สร้างความเสียหายจากแสงแดด

ครีมกันแดดประเภทต่างๆ 
ครีมกันแดดปัจจุบันมีอยู่ 3 ประเภท คือ 

Chemical sunscreen แบบเคมิคอล ครีมกันแดดแบบเคมีทำงานโดยการดูดซับรังสียูวีและแปลงเป็นความร้อน ครีมกันแดดแบบเคมีมักจะมีน้ำหนักเบาและมีเนื้อสัมผัสที่เรียบเนียนกว่า ทำให้ทาได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม บางคนที่มีผิวแพ้ง่ายอาจเกิดอาการระคายเคืองหรือแพ้สารเคมีบางชนิดได้

Physical sunscreen แบบฟิซิคอล หรือเรียกกันว่า Mineral sunscreen
ครีมกันแดดแบบฟิซิคอลจะสร้างเกราะป้องกันทางกายภาพที่สะท้อนและกระจายรังสียูวี ครีมกันแดดแบบ Physical ซึ่งมักประกอบด้วยแร่ธาตุ เช่น ซิงค์ออกไซด์หรือไททาเนียมไดออกไซด์ โดยทั่วไปสามารถทนต่อทุกสภาพผิวได้ดี ให้การปกป้องทันทีเมื่อทา แต่อาจรู้สึกหนักกว่าเมื่ออยู่บนผิว

Hybrid sunscreen  แบบไฮบริด ครีมกันแดดกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มใหม่ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาวางขายในตลาด เป็นกันแดดที่ถูกพัฒนามาโดยนำข้อดีของแต่ละกลุ่มข้างต้นมาช่วยส่งเสริมสารกันแดดที่ใช้ จะเป็นลักษณะไฮบริด คือสาร Bis-Benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol ,Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl, Tinosorb M และอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติ แบบผสมระหว่าง Chemical และ Physical สามารถดูดซับ ป้องกันและสะท้อนรังสีทั้ง UVA และ UVB ได้จบภายในตัวเดียว และยังมีเนื้อที่ไม่เหนอะหนะ เบาสบายผิว และไม่ก่อให้เกิดการอุดตันและระคายเคืองอีกด้วย


การกำหนดประเภทผิวและความต้องการครีมกันแดดของคุณ

หากต้องการค้นหาครีมกันแดดที่ลงตัว พิจารณาประเภทผิวและความต้องการเฉพาะของผิวเป็นสิ่งสำคัญ คำแนะนำทั่วไปต่อไปนี้จะช่วยคุณเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผิวของคุณได้ค่ะ


1. ผิวมัน มองหาครีมกันแดดที่ปราศจากน้ำมันหรือเนื้อแมตต์ซึ่งจะไม่อุดตันรูขุมขนหรือทิ้งคราบมันไว้ เลือกใช้สูตรเนื้อบางเบาที่ให้ผลลัพธ์แบบด้านเพื่อควบคุมความมันเงาส่วนเกิน

2. ผิวแห้ง เลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูโรนิกหรือกลีเซอรีน มองหาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นและมีเนื้อครีมหรือโลชั่นเพื่อบำรุงผิวพร้อมทั้งปกป้องผิว

3. ผิวแพ้ง่าย เลือกครีมกันแดดที่มีป้ายกำกับว่า "สำหรับผิวแพ้ง่าย" หรือ "อ่อนโยน" เพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคือง มองหาสูตรที่ปราศจากน้ำหอมและแร่ธาตุที่มีโอกาสเกิดอาการไม่พึงประสงค์ หรือควรหลีกเลี่ยงกันแดดแบบเคมิคอล

4. ผิวผสม มองหาสูตรเนื้อบางเบาและไม่ก่อให้เกิดสิวซึ่งจะไม่อุดตันรูขุมขนหรือทำให้ความมันบริเวณ T-zone เพิ่มขึ้น พิจารณาใช้ครีมกันแดดที่แตกต่างกันสำหรับบริเวณต่างๆ ของใบหน้าเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของผิว

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกครีมกันแดด
นอกจากสภาพผิวของคุณแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกหลายประการที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับความต้องการของคุณ:

1. เนื้อสัมผัส  ครีมกันแดดมีหลากหลายรูปแบบ เช่น โลชั่น ครีม เจล สเปรย์ หรือแม้แต่แป้ง ควรเลือกเนื้อสัมผัสที่ให้ความรู้สึกสบายผิวและทาง่าย

2. การใช้งาน พิจารณาการใช้งานจริงของการใช้ครีมกันแดด บางคนอาจชอบขวดปั๊มเพื่อการใช้ที่ง่ายดาย ในขณะที่บางคนอาจพบว่าสเปรย์สะดวกกว่าสำหรับบริเวณที่เข้าถึงยาก เลือกรูปแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความชอบของคุณได้เลย

3. ส่วนผสม อ่านฉลากและมองหาส่วนผสมสำคัญ เช่น ซิงค์ออกไซด์หรือไททาเนียมไดออกไซด์สำหรับครีมกันแดดแบบ Physical หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือสารก่อภูมิแพ้หากคุณมีผิวแพ้ง่าย นอกจากนี้ หากคุณกังวลเกี่ยวกับการอนุรักษ์แนวปะการัง ให้เลือกครีมกันแดดที่มีป้ายกำกับว่า "ปลอดภัยต่อแนวปะการัง"


ความเข้าใจผิดทั่วไปเกี่ยวกับครีมกันแดด
มีความเข้าใจผิดหลายประการเกี่ยวกับครีมกันแดดที่มักนำไปสู่การปกป้องที่ไม่เพียงพอ มาหักล้างความเชื่อผิดๆ เหล่านี้กัน!

ความเข้าใจผิดที่ 1 ครีมกันแดดจำเป็นเฉพาะในวันที่มีแดดเท่านั้น
     ความจริง: รังสียูวีสามารถทะลุผ่านเมฆและสร้างความเสียหายได้แม้ในวันที่มืดครึ้ม การทาครีมกันแดดทุกวันเป็นสิ่งสำคัญ โดยไม่ต้องคำนึงถึงสภาพอากาศ

ความเข้าใจผิดที่ 2 ค่า SPF ที่สูงกว่าหมายถึงการป้องกันที่ดีกว่า
     ความจริง: แม้ว่า SPF จะมีความสำคัญ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าค่าที่สูงกว่าจะให้การปกป้องได้ดีกว่าเสมอไป โดยทั่วไปค่า SPF 30 ก็สามารถป้องกันรังสี UVB ได้ประมาณ 96.7% ส่วน SPF 50 สามารถป้องกันรังสี UVB ได้ประมาณ 98% ต่างกันเพียง 1.3% เท่านั้น ซึ่งการเลือกจากค่า SPF อาจต้องพิจารณาจากกิจกรรมกิจวัตรประจำวันของเรา และพิจารณาค่า PA เพิ่มเติมด้วยค่ะ

ความเข้าใจผิด 3 ครีมกันแดดไม่มีวันหมดอายุ
     ความจริง: ครีมกันแดดมีวันหมดอายุ โดยปกติจะระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ ครีมกันแดดที่หมดอายุอาจไม่สามารถป้องกันได้เพียงพอ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องตรวจสอบและเปลี่ยนครีมกันแดดเป็นประจำ


เคล็ดลับสำหรับการทาครีมกันแดดที่เหมาะสมและการทาซ้ำ
การทาครีมกันแดดอย่างถูกต้องถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้รับการปกป้องสูงสุด การทากันแดดที่ถูกต้องควรทำดังนี้

1. ทาครีมกันแดดอย่างไม่เสียดาย อย่าลืมทาครีมกันแดดในทุกๆวัน ให้เป็นกิจวัตรประจำวัน และใช้ให้เพียงพอเพื่อปกป้องผิวของคุณจากการถูกแสงแดดทำร้าย หากทาใบหน้า ควรใช้ในปริมาณ 2 ข้อนิ้ว เป็นอย่างน้อย

2. ทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง แม้ว่าครีมกันแดดจะอ้างว่าติดทนนานหรือกันน้ำได้ แต่การทาซ้ำทุกๆ สองชั่วโมงก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณม่ีเหงื่อออกหรือว่ายน้ำอยู่ หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานๆ 

3. อย่าลืมบริเวณที่มักมองข้าม ใส่ใจบริเวณที่มักถูกละเลย เช่น หลังคอ ปลายเท้า และหู บริเวณเหล่านี้มักถูกแดดเผาแต่ถูกมองข้ามได้ง่าย



การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับผิว เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพผิว ด้วยการทำความเข้าใจประเภทผิวของตัวเอง พิจารณาปัจจัยสำคัญ เช่น เนื้อสัมผัสและส่วนผสม และแก้ไขความเข้าใจผิดทั่วไป อย่าลืมทาครีมกันแดดให้มาก และทาซ้ำเป็นประจำเพื่อการปกป้องที่ดีที่สุด ด้วยการใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสม ก็สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งพร้อมทั้งปกป้องผิวให้ปลอดภัยและมีผิวสุขภาพดีได้

ครีมกันแดดเฮเซล ครีมกันแดดพร้อมบำรุงจากครีมภูเขาในตำนาน

จาก “ครีมภูเขาในตำนาน” ครีมที่คนไทยหลายคนคุ้นเคยมาตั้งแต่อดีตกว่า 40 ปี สู่ครีมกันแดดเฮเซล พร้อมคงสารสกัดและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเฮเซลครีมเอาไว้ ที่ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคย อวลความคิดถึง เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ให้ SPF 50+ PA++++ สามารถปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดทำร้ายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งเป็นครีมกันแดดแบบไฮบริด ที่มีคุณสมบัติ แบบผสมระหว่าง Chemical และ Physical สามารถดูดซับ ป้องกันและสะท้อนรังสีทั้ง UVA และ UVB ได้จบภายในตัวเดียว เนื้อครีมไม่เหนียวเหนอะหนะ เกลี่ยง่าย ซึมไว ให้สัมผัสที่เย็นและเบาสบายผิว ด้วยเทคโนโลยีการห่อหุ้ม (encapsulation) ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และมีความเสถียร ที่สามารถทาแล้วออกแดดได้ทันที


สารสกัดบัวหิมะ
สุดยอดสารสกัดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการแพทย์แผนโบราณของชาวอุยกูร์ และในวงการแพทย์แผนจีน ช่วยในการต้านการอักเสบผิว ต้านอนุมูลอสระ ฟื้นบำรุงผิวแห้ง ให้ความชุ่มชื้นผิว ลดเรือนริ้วรอย และชะลอการเสื่อมสภาพผิว 

น้ำมันเฮเซลนัท 
น้ำมันเฮเซลนัทอุดมไปด้วยวิตามินบำรุงผิวและกรดไขมันดีที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิว ยังมีมีวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวให้ผิวอ่อนวัยเนียนนุ่ม 

แตงโมทะเลทราย
แตงโมทะเลทราย ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบทะเลทรายคาลาฮารีในทวีปแอฟริกา 
สารสกัดจากน้ำมันเปลือกแตงโม  มีคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิวพรรณ บรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ ถือเป็นสุดยอดผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน เอ ซี และ อี ฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดีค่ะ 

ไนอะซินาไมด์  (Niacinamide)
สารสกัดยอดฮิต อีกชื่อหนึ่งของวิตามิน B3 ช่วยลดความมันส่วนเกิน รักษาความชุ่มชื้นผิว ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และลดการระคายเคืองผิวอีกด้วย 


ครีมกันแดด Hazel Snow Sunscreen Protection SPF50+ PA++++ หาซื้อได้ที่ร้านค้า EVEANDBOY, Watsons, Matsukiyo, DONKI, KIS, Rimping 

หรือสั่งซื้อออนไลน์แบบส่งตรงถึงบ้านได้ที่ 

หรือสั่งส่งฟรีวันนี้กับแอดมินที่

Line : @fujicream หรือ( http://line.me/ti/p/@fujicream )

โทร : 02–101-1001 , 089-050-3999

--------------------------------------

Source :

RD FUJICREAMDOTCOM

cosmetic.fda.moph.go.th

www.rama.mahidol.ac.th